Enabler Space

คอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง อาร์โอไอ – วิธีการวัดผลคอนเทนต์

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสมัยนี้เนื้อหา (หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ คอนเทนต์) มีความสำคัญยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อวิถีของโลกในปัจจุบันเปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ที่เรามีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดแล้ว

ทำไมต้องคอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง อาร์โอไอ?

คอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง อาร์โอไอ หรือ Content Marketing ROI (Return on Investment) ที่แปลตรงตัวได้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดด้วยคอนเทนต์ เป็นหนึ่งในวิธีการส่งเสริมการตลาดและดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด ในยุคดิจิทัลการวัดผลสิ่งที่ได้กลับคืนมาจากคอนเทนต์ที่ส่งออกไปเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจ ทุกวันนี้หลาย ๆ บริษัท (ซึ่งอาจจะไม่ใช่ส่วนใหญ่) ลงเงินทุนด้านการตลาดจำนวน 1 ใน 3 ไปกับคอนเทนต์ บริษัทหรือแบรนด์ใหญ่ ๆ หลาย ๆ เจ้าอาจลงเยอะกว่านั้นด้วยซ้ำ! และมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าใครสามารถแย่งชิงพื้นที่ออนไลน์ได้ดีกว่า ก็ยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าหาและภักดีอยู่กับเจ้านั้นมากกว่า

Content Marketing ROI Metrics
ที่มา: Curata

สิ่งที่กำลังบอกอยู่นี้ไม่ใช่การบอกให้เพิ่มงบด้านการตลาด แต่เป็นการบอกให้ทำความเข้าใจกับช่องทางการตลาดของตัวเอง และใช้มันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะอยากได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการช่วยพัฒนากลยุทธ์การทำการตลาดด้วยคอนเทนต์ เพื่อที่จะได้ก้าวนำเจ้าอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา

การวัดผลการลงทุน

ก่อนอื่นเลย คุณต้องมีคอนเทนต์ก่อน! คุณสามารถทำได้ด้วยหลากหลายวิธี เช่น จ้างคนเขียนก็อปปี้ (ก็อปปี้ไรเตอร์) เป็นพนักงานประจำ ให้คนอื่นในทีมสร้างคอนเทนต์ที่ต้องการขึ้นมา หรือจะใช้วิธีจ้างคนข้างนอกอย่างฟรีแลนซ์หรือเอเจนซี่ก็ได้ ถ้าจ้างเอเจนซี่หรือบริษัททำการตลาดดิจิทัลล่ะก็ พวกเขาจะดูแลและจัดการทุกอย่างให้เลย และสามารถคำนวณรายจ่ายต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าด้วย พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าเงินที่จ่ายไปเอาไปลงส่วนไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การทำเอสอีโอ (SEO –  Search Engine Optimization หรือการปรับแต่งเสิร์ชเอนจิน) โฆษณา (Ads) หรืออื่น ๆ อีกมากมาย อาจจะง่ายกว่ามาทำเองเอามาก ๆ

ที่มา: Content Marketing Institute

การคำนวณผลตอบแทน

มีตัวชี้วัดหลายตัวที่สามารถใช้วัดผลตอบแทนการลงทุนด้านคอนเทนต์ ด้านล่างนี้เราได้ยกตัวอย่างมาตรวัดที่เป็นที่นิยมมาให้:

ตัวชี้วัดด้านปริมาณการบริโภค (Consumption Metrics)

ตัวชี้วัดด้านการกลับมาใช้บริการ (Retention Metrics)

ตัวชี้วัดด้านโซเชียล (Social Metrics)

ที่มา: NEILPATEL

ตัวชี้วัดด้านการผลิตและต้นทุน (Creation and Cost Metrics)

ตัวชี้วัดด้านการขาย (Sales Metrics)

ภาพต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ (ที่มา: optinmonster)

กำหนดคอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง อาร์โอไอของคุณ

ถึงวิชาโปรดของทุกคนกันแล้ว วิชาคณิตศาสตร์นั่นเอง เหมือนกับการคำนวณอาร์โอไอ (ROI – Return on Investment – ผลตอบแทนจากการลงทุน) ตัวอื่น ๆ เมื่อคำนวณเสร็จแล้ว ถ้าอัตราส่วนออกมามากกว่า 1 แปลว่าคุณทำได้ดีแล้ว คุณสามารถนำไปใช้กับตัววัดแต่ละตัวที่แนะนำไปข้างต้น รวมถึงตัววัดตัวอื่น ๆ อีกมากมายที่เราไม่ได้พูดถึง และสุดท้าย หากคุณต้องการความช่วยเหลือ แค่ส่งข้อความ ส่งเมล หรือโทรหาเราได้เลย สามารถติดต่อเราได้ทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของเราได้เสมอ

Exit mobile version