การตลาดดิจิทัลทำให้มีคำศัพท์เกิดขึ้นมาใหม่มากมาย และมันก็ยิ่งท้าทายมากขึ้นไปอีกเมื่อวงการการตลาดดิจิทัลเลือกที่จะใช้แต่ตัวย่อ! มันมากเกินไปมั้ยเนี่ย ยังไงคุณก็คงอยากเข้าใจคำจำกัดความของตัวย่อแต่ละตัวแน่นอน เราได้เลือกตัวย่อที่มีการใช้งานบ่อย ๆ มาให้โดยเฉพาะเลย ตัวย่อเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล 20 คำ สำหรับการทำการตลาดดิจิทัลในปี 2020!
ตัวย่อทางการตลาดดิจิทัลคืออะไร ?
ตัวย่อคือคำศัพท์หรือชื่อที่ประกอบขึ้นมาจากตัวอักษรบางส่วนที่ดึงมาจากชื่อหรือวลีที่ยาวกว่า มันช่วยให้เราหายใจเต็มปอดมากขึ้นเพราะพูดสั้นลง ไม่จำเป็นต้องเขียนยาว ๆ และจำง่ายกว่าการจำชื่อหรือศัพท์ยาว ๆ ไปรู้จักกับตัวย่อทางการตลาดดิจิทัลทั้ง 20 คำที่เราบอกไว้กันได้เลย:
API – ย่อมาจาก Application Programming Interface หรือส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ ซึ่งหลัก ๆ แล้วคือชุดเครื่องมือและชุดคำสั่งที่ต้องใช้งานร่วมกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ สับสนใช่มั้ย ลองคิดแบบนี้ดูนะ โปรแกรมและแอปพลิเคชั่นแต่ละตัวมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกัน เพื่อให้โปรแกรมสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็ต้องใช้ “ล่ามแปลภาษา” นั่นแหละคือหน้าที่ของ API
AR – ย่อมาจาก Augmented Reality หรือความเป็นจริงเสริม ซึ่งคล้ายคลึงกับ VR หรือความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) AR คือเมื่อโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนผสานเข้าหากัน วิธีที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีคือลองเปิดสแนปแชต (Snapchat) หรือกล้องเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ (Facebook Messenger) ขึ้นมาดู ทีนี้เวลาที่กำลังถ่ายรูปเซลฟี่เราสามารถใส่ฟิลเตอร์ต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเราดูต่างไปจากเดิมบนมือถือไปพร้อม ๆ กับเวลาจริง นี่แหละคือความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality)
B2B – ฟังดูเหมือนบอยแบนด์เลยนะ แต่จริง ๆ แล้วมันย่อกมาจาก Business to Business หมายถึงการดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างหน่วยงานธุรกิจสองหน่วยงานเมื่อหน่วยงานธุรกิจหนึ่งมีบางสิ่งบางอย่างที่อีกหน่วยงานธุรกิจหนึ่งต้องการ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคืออุตสาหกรรมรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ เช่น ยางและแบตเตอรี่ แต่ในยุคดิจิทัล ควรรู้ไว้ด้วยว่าบริการอย่าง กูเกิลสวีท (Google Suite) และดรอปบ็อกซ์ (Dropbox) ก็นับเป็น B2B เช่นกัน
B2C – นี่ไม่ใช่การเรียงตัวอักษร ABC อีกวิธีหรอกนะ แต่มันย่อมาจาก Business to Consumer หลัก ๆ คือการดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างหน่วยงานธุรกิจและผู้บริโภค ความหมายค่อนข้างตรงตัว
CPA – ไม่ได้ย่อมาจาก Certified Public Accountant หรือผู้ตรวจสอบบัญชี (อย่างที่เข้าใจกันในวงกว้าง)! นี่เป็นหนึ่งในตัวย่อทางการตลาดดิจิทัลที่สำคัญที่สุด ซึ่งย่อมาจาก Cost Per Acquisition/Action หรือต้นทุน (การคิดค่าโฆษณา) ต่อหนึ่งการกระทำ นี่เป็นแผนราคาสำหรับธุรกิจดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับนักโฆษณาว่าต้องจ่ายมากเท่าไหร่ต่อการกระทำหนึ่งการกระทำ
CPC – Cost Per Click หรือต้นทุน (การคิดค่าโฆษณา) ต่อหนึ่งคลิก ใช่แล้ว เกิดขึ้นเมื่อคลิกแบนเนอร์โฆษณาที่อยู่ด้านบนหรือด้านข้างหน้าเพจเว็บไซต์ แต่ละครั้งที่คลิก นักโฆษณาต้องจ่ายตามจำนวนที่ตั้งไว้ก่อนหน้า
CR – เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรู้ว่ามีผู้ใช้งานที่เทคแอ็กชั่นเช่นการลงทะเบียน กรอกแบบฟอร์ม หรือซื้อสินค้าบนหน้าเว็บไซต์จำนวนเท่าไหร่ เราทำอย่างนั้นได้โดยการวัดจากอัตราคอนเวอร์ชั่นเรต (Conversion Rate) หรืออัตราการกระทำ (เทคแอ็กชั่น) ต่อจำนวนผู้ที่เข้ามาชมทั้งหมด สมมุติว่ามีคนเข้ามาที่เว็บไซต์จำนวน 100 คน และมีคนจำนวน 50 ที่ซื้อสินค้าผ่านร้าน นั่นคือคอนเวอร์ชั่นเรต 50%
CRM – ความสัมพันธ์นั้นสำคัญในทุกสถานการณ์ ในธุรกิจนั้นยิ่งสำคัญ! Customer Relationship Management หรือการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ช่วยเราในทางเดียวกันกับสมุดจดที่อยู่ โดยการจัดระเบียบข้อมูลการติดต่อและช่วยให้เราติดตามได้ว่าเรามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันและว่าที่ลูกค้ายังไง และยิ่งไปกว่านั้นมันขับเคลื่อนด้วยข้อมูล! คำถามคือ “อันนี้เป็นโปรแกรม หรือแอป หรือกลยุทธ์” คำตอบคือ มันคือทั้งหมดเลย
CRO – ถ้าอยากให้เกิดการกระทำหรือเทคแอ็กชั่นเวลาที่มีคนเข้ามาชมเว็บไซต์ Conversion Rate Optimisation หรือการปรับแต่งคอนเวอร์ชั่นเรตให้เหมาะสม ก็เป็นเรื่องสำคัญ เราทำอย่างนี้เพื่อให้คนลงมือกระทำการกระทำนั้น ๆ ได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการกรอกฟอร์มหรือการซื้อสินค้า เป็นต้น นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนคนที่มีแนวโน้ม (Leads) เป็นคนที่ลงมือกระทำ (Actions) หรือง่าย ๆ ก็คือเปลี่ยนว่าที่ลูกค้ามาเป็นลูกค้านั่นเอง
CTA – ยกมือขึ้นมาเร็วพวกเรา! นั่นคือ Call to Action หรือสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำ อยากให้คนที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ซื้อสินค้าเหรอ นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขากดคลิกปุ่มซื้อสินค้า
CTR – Click Through Rate หรืออัตราการคลิก ค่อนข้างตรงตัวนะพอมาคิด ๆ ดูแล้ว มันก็คืออัตราจำนวนลูกค้าที่กดคลิกที่ลิงก์ต่อจำนวนผู้ที่เห็นลิงก์ (หรือโฆษณา) ทั้งหมด แค่นั้นแหละ
PLA – ปลา! ล้อเล่น! เล่นคำกันสักหน่อย จริง ๆ แล้วมันย่อมาจาก Product Listing Ads หรือรูปโฆษณาที่แสดงรายละเอียดต่าง ๆ อยู่ด้วย รูปโฆษณาเหล่านี้สามารถคลิกเข้าไปได้และมักจะแสดงขึ้นมาเมื่อเราใช้เสิร์ชเอนจินในการหาสินค้า บริษัทต่าง ๆ จะจ่ายค่าโฆษณาเหล่านี้ด้วยแผนราคาแบบ CPC (ย้อนขึ้นไปอ่านด้านบน)
PPC – Pay Per Click หรือการลงโฆษณาบนหน้าเสิร์ชเอนจินด้วยระบบการจ่ายเงินต่อคลิก จริง ๆ แล้วเข้าใจง่ายมาก ๆ นักโฆษณาจะต้องจ่ายทุกครั้งที่มีคนคลิกตัวโฆษณา มันฟังดูคล้ายคลึงกับ CPC แต่บอกเลยว่ามันต่างกัน PPC คือระบบการลงโฆษณา ขณะที่ CPC เป็นมาตรวัดผล
PR – ตัวย่อนี้สามารถย่อมาได้จากหลายอย่างเลย แต่ในกรณีนี้เราย่อมาจาก Press Release หรือการประชาสัมพันธ์ หรือการแถลงข่าว มันคือเครื่องมือที่เราใช้ออกประกาศสิ่งต่าง ๆ ที่มีคุณค่าความเป็นข่าว การ PR ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ที่เป็นสื่อประเภทข่าว
ROAS – เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรรู้ว่าเรามีผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไหร่สำหรับจำนวนเงินที่เราใช้ทำการตลาด สามารถทำได้โดยการใช้สูตรง่าย ๆ สำหรับ Return on Ad Spending หรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา ซึ่งคือยอดรวมของผลประกอบการที่ได้จากช่องทางที่ทำการตลาดหารกับจำนวนเงินที่จ่ายไปสำหรับช่องทางนั้น (รายได้จากการทำโฆษณา/จำนวนค่าโฆษณาที่จ่ายไป)
RTB – Real-Time Bidding หรือการเสนอราคาตามเวลาจริง คือกระบวนการซื้อขายจำนวนคนที่เห็นโฆษณาออนไลน์ มันเกิดขึ้นจากการประมูลตามเวลาจริง ตามเวลาจริงหมายถึงระยะเวลาที่หน้าเว็บเพจโหลด สำหรับคนที่เป็นน้องใหม่ในวงการการตลาดดิจิทัลคงรู้สึกทึ่งอยู่ไม่น้อย!
SEM – จำ SEO ได้มั้ย Search Engine Optimization หรือการปรับแต่งเสิร์ชเอนจิน เป็นแค่แขนงหนึ่งของ Search Engine Marketing หรือการตลาดบนเสิร์ชเอนจิน ซึ่งหลัก ๆ ก็หมายถึงการตลาดบนอินเทอร์เน็ตที่เน้นการมองเห็นเว็บไซต์บนหน้าเพจแสดงผลลัพธ์การค้นหาบนเสิร์ชเอนจิน
SERP – Search Engine Results Page หรือหน้าเพจแสดงการจัดอันดับของเสิร์ชเอนจิน หลัก ๆ แล้วคือหน้าเพจที่แสดงโดยเสิร์ชเอนจินหลังจากที่เราพิมพ์คีย์เวิร์ดลงไป หรือง่าย ๆ ก็คือ หน้าเพจแสดงผลลัพธ์
SMO – สิ่งที่สำคัญที่สุดในทศวรรษที่แล้วอะไรทำนองนั้น Social Media Optimisation หรือการปรับแต่งโซเชียลมีเดีย คือการใช้ประโยชน์จากสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อโปรโมตแบรนด์ อีเวนต์ หรือสินค้า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะปั่นกระแสไวรัล (Viral)
O2O – หนึ่งในตัวย่อไม่กี่ตัวที่ใช้ตัวเลขย่อแทนคำหนึ่งคำ Online to Offline หรือออนไลน์สู่ออฟไลน์ ใช้อธิบายระบบที่ดึงดูดผู้บริโภคในสภาพแวดล้อมดิจิทัลให้ซื้อสินค้าหรือบริการจากธุรกิจที่เป็นหน้าร้าน
ทำไมถึงต้องรู้เรื่องพวกนี้ ?
ไม่เลวเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ทำไมถึงจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วย การตลาดนั้นมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง มันไม่ใช่แค่การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ในนิตยสาร หรือการเอาโฆษณาขึ้นบิลบอร์ดแล้วหวังว่าจะมีคนโทรเข้ามาอีกต่อไปแล้ว ในยุคดิจิทัลนี้ เราต้องใช้ประโยชน์จาก MarTech (อ่านว่ามาร์เทค) ซึ่งย่อมาจาก Marketing Technology หรือเทคโนโลยีทางการตลาด MarTech ทำให้เราเข้าถึงและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เราวัดผลว่าอะไรมีประสิทธิภาพ อะไรไม่มีประสิทธิภาพ มากน้อยขนาดไหน เพราะฉะนั้นจงทำตัวให้คุ้นชินกับตัวย่อทางการตลาดดิจิทัลทั้ง 20 คำสำหรับปี 2020 เพื่อเป็นตัวนำทางในโลกแห่งการทำการตลาดดิจิทัล
หากต้องการอะไรหรือต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับตัวย่อทางการตลาดดิจิทัลเพิ่มเติม คลิกที่นี่เพื่อไปหน้าเว็บไซต์เราและติดต่อเราได้เลย