วิธีการที่มีนวัตกรรมและสร้างสรรค์ในการดึงดูดและรักษาไว้ซึ่งผู้มีทักษะด้านดิจิตอลเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างมากในทั่วโลก แต่อันที่จริงนั้น ช่องว่างทางทักษะด้านดิจิตอลนับเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมาก สำหรับประเทศไทย ความท้าทายนั้นเกินกำลังของแผนกทรัพยากรบุคคลและ ผู้ที่มีหน้าที่คัดสรรบุคคลเข้าทำงาน
“ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างแรงงานดิจิตอลที่มีทักษะทางด้าน IT อย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับการปฏิรูปของธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีอยู่” -จาก Bangkok Post 2017
จากผลของงานวิจัยโดย Online Marketing Institute พบว่า นี่คือวิธีการที่ผู้นำทางธุรกิจกำลังใช้วัดทักษะด้านดิจิตอลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่องทางที่อ่อนแอมากที่สุด ได้แก่ การวิเคราะห์ การทำการตลาดทางโทรศัพท์มือถือ การทำการตลาดทางอีเมล์ และการทำการตลาด content
source: MercuryOne (research coverage on the digital talent gap)
ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ในดัชนีการปฏิรูปทางดิจิตอลในเอเชีย
รายงานจากเรื่อง Economist Intelligence ของดัชนีการปฏิรูปทางดิจิตอลในเอเชียแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ค่อนข้างต่ำจากบรรดา 11 ประเทศที่แสดงอยู่ในรายงานนี้
(Source: Connecting Capabilities: The Asian Digital Transformation Index, A report from The Economist Intelligence Unit)
Index, รายงานจากหน่วย Economist Intelligence Unit)
ดังนั้น ดัชนีให้ค่าน้ำหนักที่ 3 เสาหลักที่ประเทศไทยยังแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิตอล ต้นทุนทางบุคลากร และความเชื่อมโยงของอุตสาหกรรม
การขาดแคลนอย่างรุนแรงเรื่อง ความโดดเด่นในเรื่องดิจิตอล: การวิเคราะห์ และ ประสบการณ์ของผู้ใช้
ด้วยกระแสการตลาดแบบดิจิตอลที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยจากกิจกรรมทางดิจิตัลหลากหลายที่จัดขึ้นตลอดปี และเว็บไซต์จากประเทศไทยมากมาย เช่น Marketingoopsw ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ดูเหมือนว่าประเทศนี้อุดมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอล
อย่างไรก็ตาม เสาหลักของการทำการตลาดดิจิตัลมาจากการวิเคราะห์ข้อมูล และจากผลของรายงาน
การขาดแคลนทักษะทางด้านดิจิตอลอย่างรุนแรงถูกพบในสาขาที่มีความล้ำหน้าและเป็นที่ต้องการมากกว่า เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและประสบการณ์ของผู้ใช้
ในด้านการจ้างงาน คุณ Le Louer นักลงทุนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทออนไลน์สามบริษัทในประเทศไทยกล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนเป็นปัญหาที่เด่นชัด กระทั่งบริษัทใหญ่ๆยังหันไปดึงตัวผู้มีทักษะจากบริษัทเทคโนโลยีStartup “พวกบริษัทใหญ่ก็แค่จ่ายเงินเดือนให้พวกเขา เป็น 2เท่า ทำให้บริษัทเล็กๆไม่สามารถแข่งด้วยได้”
อุปสรรคของกลยุทธ์ทางด้านดิจิตอล
นอกจากความท้าทายทางด้านแรงงานแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกถึงการขาดกลยุทธ์และไอเดียใหม่ๆเพื่อให้บริษัทไล่ตามการปฏิรูปทางดิจิตอลได้สำเร็จ โดยธรรมชาติ กลยุทธ์นี้มีความเป็นดิจิตอลอยู่แล้วและท้ายที่สุดกลยุทธ์นี้จะขึ้นอยู่กับความมั่นใจในด้านความรู้และความสามารถทางดิจิตัลของบริษัท และไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าขาดผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งทางด้านความรู้เชิงดิจิตอลที่จะช่วยผลักดันให้เกิด
ความคิดในการสร้างนวัตกรรมหรือไม่
รายงานได้สรุปไว้ว่า การขาดผู้มีทักษะถือเป็นข้อจำกัดทางการพัฒนาของธุรกิจในประเทศไทย ในความท้าทายที่พบในปัจจุบันคือ บริษัทจะต้องเดินไปในทิศทางใดเพื่อให้แน่ใจได้ว่าความสามารถทางดิจิตอลของสถาประกอบการจะอยู่ในระดับที่คาดหวังไว้ เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันได้และไปได้ไกลกว่าเดิม
รักษาไว้ซึ่งความรู้ทางดิจิตอลขั้นสูงในบริษัทของคุณ
เมื่อการสรรหาทางดิจิตัลกลายมาเป็นเกมส์ดึงตัวและเงินเดือนด้านดิจิตอลที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกเขายังรักษาระดับความรู้ทางดิจิตอลขั้นสูงไว้ในบริษัทโดยไม่กระทบกระเทือนต่อความสมดุลย์ของสถานประกอบการในทุกแผนก
การสร้างสรรค์ คือ ชื่อของเกมส์นี้ และก็มีวิธีการอีกมากมายมากกว่าแค่การหันมาดึงตัวและจ่ายเงินให้เป็น 2 เท่า
1 ฝึกอบรมผู้ฝึกสอน
สำหรับหลายบริษัทที่ค่อนข้างมั่นใจว่าทีมของพวกเขาสามารถศึกษาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆได้ด้วยตัวเองผ่านงานวิจัย หรือ การลองผิดลองถูก พวกเขาสามารถนำบรรยากาศการเรียนรู้แบบฝึกอบรมผู้ฝึกสอนมาปรับใช้ได้ ซึ่งอาจจะรวมถึงการลงมาพูดคุยกับทีมที่เกี่ยวข้องและตัวแทนจากแต่ละแผนกเป็นรายสัปดาห์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ พนักงานคนหนึ่งอาจถูกมอบหมายให้ไปศึกษาสิ่งใหม่ๆเกี่ยวกับการทำการตลาดดิจิตอลและนำมาเล่าให้กับเพื่อนร่วมทีมในสัปดาห์ต่อมาเสมือนเป็นผู้ฝึกสอน และปรับเปลี่ยนหน้าที่ในแต่ละสัปดาห์
2 ว่าจ้างที่ปรึกษาและผู้รับทำงานร่วมกัน
จากผลการวิจัยที่รายงานโดย Deloitte Insights หนึ่งในวิธีที่สำคัญที่บริษัทสามารถสร้างความแข็งแรงของความรู้ด้านดิจิตอล คือ การจ้างที่ปรึกษา ณ ที่นี้ เราไม่ได้หมายถึงการว่าจ้างหน่วยงานทางดิจิตอล แต่หมายถึงที่ปรึกษาที่เป็นบุคคล รูปแบบของหน่วยงานมักจะเป็นรูปแบบจ่ายเงินเพื่อรับบริการที่ซึ่งความรู้ด้านดิจิตอลล้วนอยู่นอกขอบเขต ความท้าทายคือทำอย่างไรที่จะเพิ่มความเข้าใจด้านการตลาด
ดิจิตอลและความรู้เกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของบริษัททั่วทั้งองค์กร แทนที่จะมีผู้เชี่ยวชาญรับมือกับ
โปรเจคด้านดิจิตอลโดยลำพัง
การจ้างที่ปรึกษาในอีกนัยหนึ่งอาจหมายความว่าคุณกำลังจะถ่ายโอนความรู้จากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
ดิจิตอลไปให้กับทีมและแผนกต่างๆ
3 ดึงผู้นำทางดิจิตอลมาเข้าร่วมงาน
นอกเหนือจากการจ้างผู้รับทำงานร่วมและที่ปรึกษาแล้ว คุณอาจจะอยากสรรหาผู้นำทางดิจิตอลเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปทางดิจิตอลให้กับทุกแผนก และการทำเช่นนั้น เป็นเหมือนการเร่งวิธีการแก้ไขปัญหาช่องว่างทางทักษะด้านดิจิตอล ผู้นำทางดิจิตอลทำหน้าที่เสมือนโค้ชและผู้แนะนำ และปฏิบัติงานใกล้ชิดกับที่ปรึกษา(ทีมเสริม) ความท้าทายตรงจุดนี้ คือ การต่อต้านความเปลี่ยนแปลงโดยสถานประกอบการส่วนใหญ่ และหนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญสำหรับผู้นำ คือ ทำหน้าที่เป็นดิจิตอลโค้ชและกระจายความรู้ซึ่งแตกต่างไปจากหน้าที่ของหัวหน้างาน
และเมื่อคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การปฏิรูปทางดิจิตัลครั้งใหญ่แล้ว แรงผลักที่สำคัญคือการทำให้แน่ใจว่า ผู้บริหารของคุณมีการสื่อสารอย่างเป็นรูปธรรมและมอบอำนาจให้ผู้นำทางดิจิตอลและทีมผู้นำทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
เชื่อมโยงช่องว่างทางทักษะด้านดิจิตอล
นอกจากการสรรหาบุคลากร การพัฒนาทีมที่มีอยู่และดึงที่ปรึกษาและผู้นำทางด้านดิจิตอลมาเข้าร่วมเพื่อเชื่อมโยงช่องว่างของทักษะดิจิตอลให้สำเร็จได้นั้น การเก็บรักษาผู้เชี่ยวชาญทางดิจิตอลก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก
นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ไว้ แม้ว่าแผนกทรัพยากรบุคคลมีความสามารถในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านดิจิตอลได้ แต่หากโครงสร้างของบริษัทและวิธีการทำงานไม่สามารถเก็บรักษาคนที่จ้างมาไว้ได้ คุณก็จะสูญเสียทักษะนี้ไปได้เร็วกว่าที่คุณจะจ้างใหม่ได้ทัน และก็ไม่มีทางที่จะปิดช่องว่างของทักษะดิจิตอลนี้ได้
การเก็บรักษาทักษะไว้เป็นความท้าทายที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงและเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกแผนกและทุกคนในองค์กร ความแตกต่างที่สำคัญ คือ วิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านดิจิตัลคิด วิธีการที่จะมั่นใจได้ว่าแผนกทรัพยากรบุคคลเข้าใจว่าพวกเขาคิดอย่างไรเพื่อบูรณาการพวกเขาเข้ามาสู่ระบบได้สำเร็จ แผนกทรัพยากรบุคคลแผนกเดียวไม่สามารถทำได้สำเร็จและจำเป็นต้องพึ่งแรงสนับสนุนจากผู้บริหารของทุกแผนกเพราะมีความเกี่ยวข้องกับการบูรณาการแบบองค์รวม ตั้งแต่การปฏิบัติงานแต่ละวันไปจนถึง
กลยุทธ์ระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการบูรณาการร่วมกับแผนกพัฒนาเทคโนโลยี แผนกบัญชี ฝ่ายขาย หรือในกลุ่มทีมการตลาดต่างๆ (ทั้งการตลาดแบบ Above The Line และ Below The Line)
นี่คือที่ๆเหล่าที่ปรึกษาและผู้รับทำงานร่วมสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทั้งการบรรเทาและจัดตั้งทำให้เกิดโครงสร้างใหม่และเป็นแม่แบบให้กับระบบภายในองค์ที่มีอยู่ อีกนัยหนึ่ง เพื่อทำงานร่วมกับบริษัทเสมือนเป็นหุ้นส่วนเพื่อวางรากฐานที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปทางดิจิตอลให้เกิดขึ้นทุกองค์กรในบริษัท เมื่อทำการว่าจ้าง ให้มองหาใครสักคนที่มีความรู้พื้นฐานแข็งแรงซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมหาศาลต่อการ สรรหาเทคนิคใหม่ๆมาทำให้ในบริษัทของคุณเติบโต
หากคุณกำลังเผชิญกับความท้าทายในการก้าวไปสู่การเป็นดิจิตอล โดยที่คุณไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนหรือช่องว่างทางทักษะด้านดิจิตอล นั่นหมายถึงคุณกำลังมองหาทีมเสริมที่ยืดหยุ่นได้(พร้อมให้เรียกใช้บริการ) โปรดอย่ากังวลในการติดต่อและพูดคุยกับ ที่ปรึกษาทางด้านการตลาดดิจิตอลในกลุ่มของเรา เราจะยินดีอย่างยิ่งที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความท้าทายของคุณมากขึ้น และเรายินดีที่จะเสนอการประเมินผลและให้คำแนะนำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ