คำว่า Intent หมายถึงเจตนา และคำว่า Search หมายถึงการค้นหา ถ้ามาดูความหมายแบบตรงไปตรงมาเลยคำว่า Search Intent หมายถึงเจตนาของการค้นหาของผู้ใช้ Google และ search engine อื่นๆ เมื่อเขาพิมพ์คำชุดนึงและทำการค้นหา

ยกตัวอย่างถ้าผู้ใช้พิมพ์คำ “ว่าวิธีชงกาแฟ” เขาน่าจะกำลังหาวิธีการ ข้อมูลหรือ คู่มือเพื่อที่จะชงกาแฟ  แล้ว algorithm ของ Google ซึ่งก้าวหน้าไปไกลแล้วก็สามารถแบ่งแยกประเภทของเนื้อหาบทความบนเว็บไซต์ต่างๆเพื่อที่จะตอบโจทย์ตามเจตนาของการค้นหาได้ดี

ในทางกลับกันถ้าผู้ใช้พิมพ์คำว่า “วิธีเลือกเม็ดกาแฟ” แม้ว่ามีคำว่า “วิธี” เหมือนกันเจตนาของการค้นหาคำชุดนี้คือเพื่อที่จะซื้อ แล้ว algorithm ของ Google ก็จะแสดงผลอีกแบบนึง เน้นสินค้าเกี่ยวกับกาแฟรวมไปถึงข้อมูลสำคัญในการเลือกซื้อเช่นราคา วิธีการส่ง รายละเอียดเม็ดกาแฟ รายละเอียดร้านค้า และอื่นๆ

Search Intent มีแบ่งไว้เป็น 4 ประเภท

เมื่อเราเข้าใจ 4 ประเภทของ Search Intent เราก็จะสามารถ ออกแบบเนื้อหาบนเว็บไซต์เราให้ตอบโจทย์ User และธุรกิจของเราได้ดีที่สุด

Navigational Search เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งานรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการทำอะไรและมีการ search ค้นหาแบบเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น Search คำว่า “หน้าล็อกอิน abc”

Information Search เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งาน Search ค้นหาข้อมูล เพื่อที่จะเข้าใจศึกษาเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น Search คำว่า “วิธีซ่อมหม้อน้ำ”

Transactional Search เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งาน Search ค้นหาสิ่งที่เขาตัดสินใจจะซื้อ ลงทะเบียนหรือ convert อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น Search คำว่า “ลงทะเบียนจองมือถือ abc”

Commercial Search เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งาน Search ค้นหาด้วยแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่จะซื้อและอยู่ในขั้นตอนการไตร่ตรอง ยกตัวอย่างเช่น Search คำว่า “รีวิวรถรุ่น abc”

ทีนี้ถ้าเรามองจากมุมของนักการตลาดและคนที่ดูแลเรื่องของ SEO สำหรับธุรกิจที่ขายเม็ดกาแฟออนไลน์ เราก็อาจจะเน้นไปเตรียมเนื้อหาหัวข้อบทความที่ตอบโจทย์ด้านของ transactional และ commercial search มากกว่าประเภทอื่น เพื่อที่จะส่งผลดีต่อ ROI (return on investment) และรายได้ธุรกิจของเรา 

ยกตัวอย่าง บทความและ Content พี่มีหัวข้อเช่น “รีวิวผลิตภัณฑ์เม็ดกาแฟตามประเภทของกาแฟ” ก็จะน่าสนใจกว่าหัวข้อเช่น “มาที่ไปของชื่อเครื่องดื่มกาแฟแต่ละชนิด”

เรามาจบกันด้วยคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Search Intent และ SEO

Search Intent ต่างยังไงจาก User Intent?

ไม่ต่างกันเลยค่ะ เป็นเรื่องเดียวกัน จะเห็นว่า 2 คำนี้จะใช้แทนกันอยู่บ่อยๆ ถ้าเรามาแปลตรงๆเลยก็จะเห็นว่า จริงๆแล้วทั้งสองความหมายเดียวกัน Search Intent แปลว่า “เจตนาในการค้นหา” User Intent แปลว่า “เจตนาของผู้ใช้งาน” ถ้าดูเป็นภาพรวมก็ขยายความเป็น “เจตนา”ของผู้ใช้งานในการค้นหาบน search engine เช่น Google

ถ้าเราทำส่วนนี้ได้ดีแล้วเว็บไซต์ของเราจะแสดงผลในหน้าแรกของ Google ทันทีไหม?

การทำ SEO มีปัจจัยเยอะมากเท่าที่รู้ทุกวันนี้ก็มีอยู่ 200+ กว่าปัจจัย SEO ranking factors และ search engine ทุกวันนี้ก็มีการใช้ Machine Learning และ AI มาเสริมอัลกอริทึมในการจัดอันดับเว็บไซต์อีกต่างหาก พราะเหตุนี้ถ้าเราคิดว่าเราได้เตรียมบทความที่ตอบโจทย์เรื่องของ Search Intent ได้ดี มันก็จะช่วยเพิ่ม probability เพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์เราจะแสดงผลในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ไม่ได้การันตีว่าเว็บไซต์เราจะแสดงผลในหน้าแรก และตำแหน่งต้นๆทันทีทันใด ถ้าหากปัจจัย SEO อื่นๆเรายังทำไม่ได้ดี

จะหาคำเพื่อที่จะเอามาใช้แต่งบทความให้ตรงกับ Search Intent ได้ยังไงบ้าง?

แนะนำให้ลองใช้เครื่องมือ SEO tools ตามนี้ค่ะ Ahrefs SEMrush Moz Keyword Explorer โดยเฉพาะ Ahrefs ซึ่ง support ภาษาไทยได้ค่อนข้างเต็มที่