ในแวดวงธุรกิจและการตลาด หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับหนังสือ “Moneyball: The Art of Winning an Unfair Game” แต่โดยมาก เรามักจะมองเรื่องนี้จากแง่มุมของการวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติ กล่าวคือการพิจารณาข้อมูลและสถิติเพื่อนำพาทีมนักกีฬานอกสายตาไปสู่ชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์นั่นเอง
อันที่จริงแล้ว Moneyball มีอะไรมากกว่า crunch data เพราะยังเกี่ยวกับความเป็นผู้นำ และวิธีการจัดการทีมให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย
เมื่อบิลลี่ บีน ผู้จัดการทีม Oakland A ต้องประสบปัญหาหลังจากที่ทีม Yankees ซื้อตัวผู้เล่นดาวเด่นจากทีมของเขาไปสามคน บีนจึงหันเข้าหาหลัก sabermetrics ซึ่งต่อมาได้ช่วยพลิกสถานการณ์ให้แก่เขา โดยที่วิธีการคัดเลือกผู้เล่นเข้าทีมของบีนนั้นก่อให้เกิดข้อสงสัยแก่ผู้คนมากมายที่เรียกทีมนักกีฬาของเขาว่า “ดินแดนแห่งม้านอกสายตา”
ทว่าบิลลี่ บีนกลับไม่ใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น ทั้งยังพิสูจน์ต่อวงการกีฬา ตลอดจนวงการธุรกิจ และแวดวงผู้นำว่า “the sum is greater than its parts” (ego sum qui sum)
จริงอยู่ที่เบสบอลเป็นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม แต่กลับเป็นกีฬาที่มีให้ความสำคัญกับผู้เล่นเป็นรายบุคคลมากกว่าเป็นทีม และสิ่งนี้ก็เป็นผลมาจากลักษณะของการเล่นกีฬาชนิดนี้เอง หากคุณเป็นคนตีลูก คุณก็จะต้องพยายามแตะเบสแรกให้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะแตกต่างจากบาสเก็ตบอลหรือฟุตบอลที่ผู้เล่นจะต้องพยายามเปิดช่องให้เพื่อนร่วมทีมสามารถส่งต่อลูกได้ และในกีฬาเบสบอล จำนวนของวอล์ค (walk) จะเชื่อมโยงกับคุณค่าของผู้เล่นนั้น ๆ
หลัก Sabermetrics จะแสดงให้เห็นว่าคุณค่าของผู้เล่นไม่ได้วัดจากผลงานการเล่นแบบตัวใครตัวมันเสมอไป หากแต่ผลงานการเล่นของผู้เล่นแต่ละรายรวมกันจะทำให้สามารถตีคุณค่าของทีม และความเป็นไปได้ในการชนะการแข่งขันได้ ดังนั้นวิธีการนี้จึงให้นิยามใหม่แก่กีฬาเบสบอล ตลอดจนนำมาซึ่งจุดสมดุลที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างผู้เล่นที่ได้รับค่าตัวมากเกินควร และที่ได้รับค่าตัวน้อยเกินควร

ในด้านการตลาดดิจิทัล สิ่งนี้เรียกว่า attribution modeling การเน้นดูแต่ผลงานของผู้เล่นเพียงคนเดียวก็เหมือนกับการมุ่งดูแต่ ‘last-click’ เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญกว่านั้น สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของข้อมูลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสไตล์การนำทีมและการมองสิ่งต่าง ๆ แบบตามสมควรของบิลลี่ บีนอีกด้วย
สิ่งสำคัญของกีฬาเบสบอลไม่ใช่ผู้เล่นที่ทรงคุณค่าที่สุด (MVP) แต่เป็นทีมที่ทรงคุณค่าที่สุด ซึ่งคุณสมบัติที่ผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจมองหาในตัวผู้นำก็คือความสามารถในการสร้างทีมที่จะชนะการแข่งขันได้ และทีมที่จะชนะไม่จำเป็นต้องประกอบไปด้วยผู้เล่นที่เก่งที่สุดเสมอไป หากแต่เป็นผู้เล่นที่จะเสริมจุดแข็งและชดเชยจุดอ่อนของกันและกัน
แนวคิด Moneyball และหลัก sabermetrics ของบิลลี่ บีนยิ่งเน้นย้ำให้เห็นชัดถึงความสำคัญของการทำงานเกื้อหนุนกันภายในทีมอันจะนำไปสู่ชัยชนะ หลักการนี้ใช้ได้กับการทำงานเป็นทีมทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกีฬา การเข้ากลุ่มในห้องเรียน ทีมวิจัย และแน่นอนว่าใช้ได้กับทีมนักการตลาดดิจิทัลด้วยเช่นกัน