คนที่เกิดในต่างยุคต่างสมัยกัน ใช้ชีวิตมาคนละแบบ ย่อมจะมองอะไรไม่เหมือนกัน และเมื่อยุคสมัยต่างกัน แน่นอนว่าเทคโนโลยีที่มีก็ต้องต่างกันอาทิ คนที่เกิดในช่วงกลางของยุค 1,900 จะไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีอย่างโทรทัศน์จอสี บริการขนส่งความเร็วสูง หรือคอมพิวเตอร์สุดล้ำ ในขณะที่คนศตวรรษที่ยี่สิบก็แทบจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาด iPads iPhone วิดีโอเกม หรืออินเอร์เน็ต และความแตกต่างนี้คือสิ่งที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัย ด้วยคนรุ่นหลังไม่มีโอกาสทได้รู้จักวิถีชีวิตของรุ่นก่อนหน้า และคนรุ่นก่อนหน้าก็อาจปรับตัวตามเทคโนโลยียุคใหม่ไม่ทัน
เริ่มกันที่คนที่เกิดระหว่างช่วงปี 1940 และ 1960 กลุ่มนี้เรียกว่า Baby Boomer ซึ่งในปัจจุบัน น่าจะกลายเป็นผู้อาวุโสไปกันหมดแล้ว ลักษณะเด่นของชาว Baby Boomer คือความมีชีวิตชีวา ร่างกายที่แข็งแรงกว่า และยังหารายได้ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับคนยุคอื่นอีกด้วย มากพอที่จะทำให้ได้ใช้ชีวิตในระดับที่ดี มีปัจจัยจำเป็นอย่างข้าวปลาอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ และเสื้อผ้าอย่างเหลือเฟือ นักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffet ก็เป็นบุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งที่เกิดในปี 1930 ซึ่งเป็นยุค Baby Boomer เช่นกัน
ยุค Baby Boomer
กลุ่ม Baby Boomer ดูจะเป็นกลุ่มที่ทำการตลาดได้ยากที่สุด เพราะส่วนใหญ่จะมีชีวิตที่ดีพร้อมอยู่แล้ว กิจกรรมออนไลน์ที่เขาเหล่านี้มักจะทำคือ อ่านบทความ อ่านบล็อก และดูวิดีโอประเภทที่มีจังหวะการนำเสนอไม่เร็วนัก แต่ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอ นอกจากนี้พวกเขายังเริ่มหันมาใช้งานเสิร์ชเอ็นจิน อีเมล และจับจ่ายซื้อของออนไลน์อีกด้วย แต่ถึงกระนั้น ชาว Baby Boomer จะเป็นนักช็อปที่ค่อนข้างรอบคอบ และมักจะเปรียบเทียบข้อเสนอจากเว็บไซต์ และแบรนด์ต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ
ต่อมาจะพูดถึงกลุ่มที่เกิดระหว่างช่วงปี 1965 ถึง 1980 ซึ่งเรียกว่ารุ่น Generation X คนยุคนี้เป็นกลุ่มที่ได้รับการศึกษามากที่สุดเมื่อเทียบกับอีกสองยุคที่ผู้เขียนยกมาในที่นี้ พ่อแม่ของเด็กยุคนี้มีแนวโน้มที่จะผ่านการหย่า และมักต้องใช้บริการรับดูแลเด็ก เด็กยุคนี้จึงอาจได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่น้อยกว่ายุคอื่น
ยุค Generation X
แม้เหล่า Gen X จะได้ใช้ชีวิตและเติบโตขึ้นในช่วงเวลาที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งจะถือกำเนิดขึ้น แต่ก็สามารถเรียนรู้ที่จะใช้อินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันออนไลน์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่การแนะนำสินค้าใหม่ให้คนกลุ่มนี้กลับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก การเรียกความสนใจไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้ก็นับเป็นความท้าทายประการหนึ่งเพราะคน Gen X มักจะเข้าสู่โลกออนไลน์โดยมีเหตุผลเฉพาะเสมอ เขาเหล่านี้เป็นนักช็อปตัวยงแล้วก็ค่อนข้างบัตรไวใจเร็วซะด้วย โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่คุ้นเคยจะให้ความเชื่อถือ และจะใช้สินค้าจากแบรนด์เดิมไปเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้ เนื้อหาประเภทวิดีโอ หรือโฆษณาควรจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของสินค้าอย่างชัดเจน ในโลกออนไลน์ นอกเหนือจากการการช็อปแล้ว คนกลุ่มนี้ยังทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่าง FaceBook และ Twitter ตลอดจนหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุดด้านสุขภาพ และเวชภัณฑ์ใหม่ ๆ
ยุค Millennial
มาถึงน้องเล็ก กลุ่ม Millennial หรือที่เรียกกันว่าคน Gen Y ที่เกิดในช่วงปี 1980 กลางไปจนถึงต้นปี 2000 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้อินเทอร์เน็ตทำกิจกรรมออนไลน์ได้แทบทุกคน เพราะเป็นยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัลหลาย ๆ อย่างถูกพัฒนาขึ้น เริ่มจาก iPhone, Skype, Line, Whatsapp และแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการโพสต์วิดีโอโฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ทำกันอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา ลักษณะอันแปลกใหม่ น่าสนใจของตัวแอปพลิเคชันเป็นตัวกระตุ้นให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อยากสำรวจการใช้งาน และใช้เวลาไปกับแอปพลิเคชันเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์, สื่อสังคมออนไลน์ หรือเสิร์ชเอ็นจินต่าง ๆ โดยเว็บไซต์ที่ใช้งานกันมากที่สุดคือ FaceBook, Youtube และ Google
ชาว Millennial คุ้นเคยกับโลกออนไลน์เป็นอย่างดีในระดับที่ทำกิจกรรมประจำวันออนไลน์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพูดคุยอัพเดทข่าวสารกับเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันสำหรับแช็ต ฟังเพลง ดูรายการโทรทัศน์เช่น ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ เป็นต้น
คนต่างยุคย่อมมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่ทุกยุคต่างก็ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยบางส่วนสามารถปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่บางส่วนชอบที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเคยชินต่อไป