SEO: ทำความเข้าใจ Crawl Budget ภายใน 15 นาที

Spiders Crawlers Server Hit Cache และอื่นๆ อาจจะสร้างความกังวลใจให้คนทำ SEO ในมุมการสร้าง Content Marketing เราอาจจะไม่ต้องพูดไรมาก แต่ยังไงคุณคงหนีจากเทคนิค SEO ไม่พ้น เพราะมันส่งผลกระทบอย่างมากต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ หนึ่งในนั้นที่เรียกว่า Crawl Budget  ซึ่งเราจะอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายรวดเร็วในเวลาไม่เกิน 15 นาที

แล้ว Crawl Budget มันคืออะไร ?

เพื่อให้เห็นภาพ ลองมองว่า Google Crawler หรือ Googlebot เรียกสั้นๆ ว่า Bot จะทำงานโดยเข้าไปเยี่ยมชมและสแกนเนื้อหาของเว็บไซต์จากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่งและเรียนรู้ว่าหน้าต่างๆถูกเชื่อมโยงกันอย่างไร ข้อมูลที่ตัว Bot รวบรวมระหว่างการเข้าชมจะถูกจัดเก็บไว้กับข้อมูลของเว็บไซต์อื่น ๆ เหมือนกับแคตตาล็อกของห้องสมุด เมื่อผู้ใช้กำลังมองหาหัวข้อหนึ่ง ๆ (จากคำค้นหา) ข้อมูลจากเว็บไซต์จำนวนมากที่ถูกรวบรวมข้อมูลจะแสดงให้ผู้ใช้เลือกว่าต้องการอ่านอะไรเพิ่มเติม

ด้วยอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่มาก มีหลายล้านเว็บไซต์ที่ต้องสแกนในหลายภาษา Bot ที่รวบรวมข้อมูลต้องฉลาดรู้ในการสแกนเว็บ แทนที่จะสแกนทุกอย่างจากทุกหน้า Bot จะต้องจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะสแกนและรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังแคตตาล็อก

พูดง่ายๆ ก็คือ หาก Crawl Budget ของคุณต่ำ โอกาสที่คุณจะแสดงผลการค้นหาก็จะต่ำไปด้วย เนื่องจากมีการ Index (ทำดัชนีเก็บในฐานข้อมูล) และอัตราการเก็บ Cache ที่ต่ำ หาก Crawl Budget ของคุณสูงคุณจะมีโอกาสที่จะแสดงผลการค้นหามากขึ้น เพราะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณในแคตตาล็อกที่เสิร์ฟให้กับผู้ค้นหา

คุณตรวจสอบว่า Googlebot กำลังรวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณได้ยังไง ?

ทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่ลงทะเบียนเว็บไซต์ของคุณด้วยบัญชี Google Console (Google Webmasters) หากคุณยังไม่เคยทำ คลิกที่เมนูย่อย ‘Crawl Stats’  ที่เมนูย่อยด้านขวามือ ในนี้มีรายงานที่คุณสามารถดูข้อมูลเชิงลึกของ Googlebot เช่น ‘เพจที่ถูกรวบรวมข้อมูลต่อวัน’ และ ‘เวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลดหน้าเว็บ’

จากรายงานนี้คุณสามารถวัดได้ว่า Crawl Budget ของคุณมีประสิทธิภาพดีขนาดไหน ตัวอย่างเช่นหากคุณมีเว็บไซต์ทั้งหมด 1,000 หน้า แต่ Googlebot กำลังรวบรวมข้อมูลเพียง 10 หน้าต่อวัน คุณก็ตั้งสมมติฐานได้ว่าคุณมี Crawl Budget ที่ต่ำมากหรือมีบางอย่างผิดปกติทางเทคนิคที่คุณอาจต้องปรึกษาผู้ดูแลระบบหรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์มาช่วยดู

ถ้าคุณอยากตัดปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าและกำหนดค่าเว็บไซต์ออกไป คุณอาจต้องเริ่มมองหาวิธีการบางอย่างที่จะช่วยเพิ่ม Crawl Budget ก่อนอื่นต้องเช็คดูว่ามีปัจจัยไหนบ้างที่ Google ใช้กำหนด Crawl Budget แต่เพื่อความรวดเร็ว เราสรุปปัจจัย 2 อันดับแรกที่คุณควรรู้

ปัจจัย #1: เว็บไซต์ของคุณเป็นที่นิยมมากขนาดไหน เช็ค link metrics ที่ใช้วัดผล

ปัจจัย #2: คุณภาพเนื้อหาของหน้าเว็บของคุณ มีคุณภาพเพียงพอกับความต้องการในการรวบรวมข้อมูลเป็นประจำมั้ย?

ปัจจัยอื่น ๆ : เช่น ปัญหาเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน แถบnavigate ที่เน้นลูกเล่นเยอะ หรือว่ามีเว็บเพจที่ติด error
ดูทั้งหมดที่ Google Webmaster Central Blog.

แล้วต้องทำยังไงถึงจะเพิ่ม Crawl Budget

# 1 ตรวจสอบ Server Logs

คุณควรเช็คว่ามีในเว็บมีหน้าที่ติด Error 404 กี่หน้าบ้าง หน้าเว็บเหล่านี้กำลังได้รับการแชร์ Crawl Budget ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะหน้าที่มีข้อผิดพลาดจะไม่ข้อมูลให้ค้นหา ฉะนั้นการที่ Search Engine รวบรวมข้อมูลหน้าเว็บเหล่านี้เป็นเรื่องที่สูญเปล่าและส่งผลให้เว็บไซต์ของมีภาพติดลบ

# 2 ตรวจสอบสถานะหน้าเว็บของคุณ

นอกจาก Error 404 แล้ว Erro อื่นๆที่ไม่ใช่รหัส 200 หรือ 301 ก็ถือว่าไม่โอเคเช่นกัน คุณสามารถใช้เครื่องมือ Screaming Frog SEO เพื่อช่วยในการระบุหน้าเว็บเหล่านี้หากคุณไม่มีสิทธิ์เข้าถึง Server Logs ของคุณโดยตรง

# 3 สร้างลิงค์ที่มีคุณภาพ หรือ  Link Juice

ตามที่ Google ปัจจัยสำคัญคือความนิยมในเว็บไซต์ของคุณบนอินเทอร์เน็ต วิธีที่ใช้วัดความนิยมของเว็บไซต์ ว่ามากหรือน้อยก็มาจากการที่เว็บไซต์มีลิงค์กลับไปหาคุณมาก ยิ่งมี Link Juice ที่มีเพิ่มไปยังหน้าเว็บสำคัญในหลายๆหน้า ก็จะเป็นการส่งสัญญาณไปยัง Bot ว่าให้มารวบรวมข้อมูลที่หน้าเว็บเหล่านี้สิ การสร้างลิงก์สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ Business update มีการจัดกิจกรรมใน Social Media และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ enablers ของเราได้ที่นี่

# 4 อย่าเสีย Link Juice ให้กับเพจที่มีคุณภาพต่ำ

หมายความว่าไงนะ? นอกเหนือจากความพยายามที่จะสร้างลิงค์ให้มากขึ้นแล้ว การสร้างลิงค์แบบผิดวิธีนั้นสามารถหยุดลิงค์คุณภาพ โดยคุณได้ส่งต่อ Link Juice ไปยังเว็บที่ค่าต่ำ และเอาจริงไม่ได้ช่วยอะไรเลยสำหรับธุรกิจของคุณ คุณสามารถใช้แท็ก ‘nofollow’ เพื่อเป็นการบอก Bot ว่าไม่ต้องรวบรวมข้อมูลตามลิงก์นั้นๆ และบล็อกหน้าค่าต่ำ ๆ เหล่านี้จากไฟล์ robots.txt

จบเเล้ว ถึง 15 นาทีมั้ยหละ