ปูทางสู่ความสำเร็จแบบไฮ สปีดด้วย Google AMP

สวัสดีค่า! ไม่ได้เจอกันนานเลย! สบายดีกันเนาะ? แล้วเว็บไซต์คุณล่ะ สบายดีมั้ย? อ้าว ไม่ค่อยเหรอ? เคยคิดเรื่องลองใช้ Google Accelerated Mobile Pages มั้ย? ยังไม่เคย? งั้นก็เริ่มคิดได้แล้วค่ะ เพราะของมันต้องมีจริง ๆ ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันสูงแบบนี้

Google AMP หรือ Google Accelerated Mobile Pages เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 และเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2016  จุดประสงค์ของเจ้าสิ่งนี้ก็ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ก็คือการเสริมประสิทธิภาพการทำงานในอุปกรณ์พกพาให้ดีกว่าในคอมพ์ตั้งโต๊ะนั่นเอง ทำไมน่ะเหรอ? เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท Search engine ยักษ์ใหญ่เริ่มเล็งเห็นว่าคนหันมาเสิร์ชหาข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2014 ที่คนใช้มือถือมากกว่าเดสก์ท็อปอย่างชัดเจน

ปัจจุบันนี้ Google AMP เสริมการทำงานให้หน้าเว็บมือถือกว่าสองพันล้านหน้าเข้าไปแล้ว! เพจที่มี AMP จะโหลดเร็วกว่าเพจที่ไม่ใช้ AMP เป็นสองเท่า  แล้วหน้าเพจที่มีการใช้ AMP นี่หน้าตาเป็นยังไง? ถ้าดูในหน้าผลเสิร์ช ก็จะเป็นเพจที่มีไอคอนรูปสายฟ้าอยู่ด้านข้างไงล่ะคะ

Google AMP
ขอบคุณข้อมูลจาก: vineetgupta.net

ในฐานะคนทำธุรกิจ นี่น่าจะเป็นสิ่งที่จะต้องมีไว้ในเว็บไซต์อย่างขาดไม่ได้ และถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว การที่เว็บคุณโหลดได้รวดเร็วระดับแว้นนี่เป็นเรื่องที่ดีนะ! แถมยังได้ออกแบบ เพจ AMP ของตัวเองด้วย คูลเฟร่อร์!

รู้จัก Google AMP Stories

ใคร ๆ ก็ชอบอ่าน Story ดี ๆ จริงมั้ย!

Google AMP Stories ทำให้เราสามารถออกแบบ สร้างสรรค์เรื่องราวที่จะโพสต์ได้อย่างยืดหยุ่น คล้ายกับ Instagram stories นั่นแหละค่ะ  แล้วสองอันนี้ต่างกันตรงไหน? ตรงที่ไม่ต้องโหลดแอพเพิ่มไง! อย่างที่บอกไปแล้วว่าคุณใส่โค้ดในเว็บไซต์ที่จะไปโผล่ในหน้าผลเสิร์ชได้โดยตรงเลย นอกจากนี้ User ยัง swipe ไปดูหน้าอื่น ๆ ในเว็บคุณได้จนกว่าจะพอใจเลย  โดยเฉลี่ยแล้ว วัน ๆ นึง User จะอ่านคำกว่า 1 แสนคำ และผู้อ่านถึง 92% ก็ชอบโฆษณาที่ดูไม่แทงหน้าแทงตากันเกินไป และดูเนียน ๆ นิดนึง คนเขียนก็ชอบเหมือนกันค่ะ

เพจแบบมี AMP ทำยากมั้ย?

ก็ไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยากค่ะ ต้องใช้ความรู้ความชำนาญทางเทคนิคนิดนึง แต่เอ้ยยย อย่าเพิ่งนอยด์กันไป เพราะมีเพจที่จะช่วยให้คุณทำเพจติด AMP ได้ด้วยตัวเอง เพจนี้จะอธิบายว่าต้องทำยังไงบ้างแบบทีละขั้นเลย แต่ถ้าลองแล้วยังติดขัด หรือเจอปัญหาอะไร ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ ลองให้ผู้เชี่ยวชาญมือดีช่วยอีกแรงก็ยังได้

แล้วสรุปมันจำเป็นมั้ยเนี่ยะ?

จำเป็นอย่างแรง! พูดตามนะคะ: เรา  ต้อง  มี  Google AMP!   จากการศึกษาหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเว็บไซต์โหลดนานเกิน 3 วินาที บรรดา User จะไม่ทนค่ะ ทีนี้พอ User หาย โอกาสที่จะเกิด Conversion ก็หายไปด้วย  ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยเนอะ? Google AMP สร้างมาเพื่อแก้ไขสถานการณ์แบบนี้แหละ โดยจะช่วยรั้งให้เหล่า User อยู่กับเพจให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะประโยชน์ข้อสำคัญของการใช้ AMP ก็คือความเร็วในการโหลดเพจที่เพิ่มขึ้นนี่แหละ

ทีนี้มาดูแผนภูมิกัน

Conversion Rates VS Load Times on Mobile
ขอบคุณข้อมูลจาก: neilpatel.com

ดูแล้วคงจะเดากันได้นะคะว่า ยิ่งใช้เวลาในการโหลดนาน Conversion ก็จะยิ่งต่ำ ส่วน Bounce rate ก็จะยิ่งสูง   นอกจากนี้ ถ้าเว็บเวอร์ชันมือถือของคุณโหลดนานกว่า 15 วินาที ผู้เข้าชม 53% ก็จะออกจากไซต์ไปทันที อื้อหือ น่ากลัวนะ

Mobile Page Load Times
ขอบคุณข้อมูลจาก: thinkwithgoogle.com

Src. Thinkwithgoogle.com

SEO

AMP ช่วยเรื่อง SEO ยังไง? การมี AMP ไว้เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระดับ Authority ของเว็บไซต์หรือเพจของคุณเปลี่ยนไปนะ  แต่จะช่วยให้คุณได้อันดับที่ดีกว่าเพจทั่วไปใน Carousel ของ Google

คิดเหมือนกันมั้ยว่า Google AMP เป็นประโยชน์สุด ๆ? ทั้งเร็ว ทั้งสมูธ  ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณใช้มันทำอะไรได้หลายอย่างเลยแหละ เช่น โพสต์บทความให้ได้อันดับดี ๆ, ลดเวลาโหลดรูปลงได้ตั้งครึ่งนึง หรือโพสต์วิดีโอได้อย่างเร็วเมื่อต้องการ และมีความเป็นไปได้อื่น ๆ อีกไม่รู้จบ สรุปคือมี AMP ไว้ก็ไม่เลวนะ ถ้ามันจะทำให้ Traffic และ Conversion มากกว่าเดิม  Win-win จะตายไป  อย่าปล่อยให้ตัวเองโดนแซงหน้าในการแข่งขันแห่งโลกดิจิทัลใบนี้ เริ่มใช้ Google AMP แล้วชิงตำแหน่งผู้นำในแวดวงธุรกิจของคุณมาให้ได้อย่างที่ตั้งใจไว้กันเถอะค่ะ

เจอกันบทความหน้านะ

Narisa (The Wordsmith)